"....เล่า อย่างรวบรัดตัดความที่สุด นี่คือหนังที่ว่าด้วยครอบครัวขี้แพ้ครอบครัวหนึ่งที่เดินทางไปด้วยกันแล้ว ค้นพบว่า ยิ่งไปไกลก็ยิ่งค้นพบความขี้แพ้ภายในแต่ละคนมากขึ้นทุกทีๆ แน่นอน มันช่างรวบรัดและขมขื่นสิ้นดี จนอาจพาลนึกไปว่าเป็นหนังสลดหดหู่ หากเช่นนั้นเราควรเพิ่มบางวลีลงในประโยคเมื่อสักครู่นี้ เช่นว่า แต่ยิ่งไปไกล พวกเขาก็ยิ่งเข้าใจ ในความขี้แพ้เฉพาะตน และภูมิใจกับมัน เอาล่ะ ฟังดูมีแสงสว่างมากขึ้นมาหน่อย
เล่า อย่างยาวๆ นี่คือเรื่องของครอบครัวเล็กๆที่ประกอบด้วย คุณพ่อที่เป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับเทคนิค 9 ขั้นสู่การเป็นผู้ชนะ และกำลังหาทางชนะด้วยการตีพิมพ์เทคนิคของตนเอง ข้างฝ่ายคุณแม่เป็นแม่บ้านที่ใกล้เสียสติขณะพยายามเลิกสูบบุหรี่ พี่ชายของเธอเป็นอาจารย์ชาวเกย์อกหักรักคุดที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังจาก เชือดข้อมือตัวเองสังเวยรัก ลูกชายคนโตเป็นสาวก นิทเช่ จู่ๆวันหนึ่งก็ทำสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พูดกับใครจนกว่าจะได้เป็นนักบิน AIR FORCE ทุกวันนี้อาศัยการสื่อสารผ่านทางสมุดฉีก มีคุณปู่เป็นสิงห์ขี้ยาที่แม้จะชราภาพ ก็ยังสูดโคเคนปื้ด ปื้ด และสบถคำหยาบเป็นไฟ ในขณะที่สมาชิกคนสำคัญคือ โอลีฟ ลูกสาวคนเล็กที่อ้วนปุ๊กลุ๊ก สวมแว่นตาหนาเตอะ และมีความหวังว่าตัวเองจะได้เข้าประกวด LITTLE MISS SUNSHINE และได้รางวัลเทพีหนูน้อยไปครอบครอง และทั้งเรื่องที่เหลือคือการเดินทางไกลข้ามรัฐของครอบครัวนี้ที่มีพาหนะเป็น รถตู้สีเหลืองมัสตาร์ดคันสุดกระป๋อง ที่วิ่งไปดับไปจนต้องมีแต่ช่วยกันเข็นแล้ววิ่งขึ้นรถให้ทันเท่านั้นจึงจะไป ได้ เพราะเมื่อออกวิ่ง รถคันนี้ก็ห้ามหยุด!
ผล งานการกำกับชิ้นแรกของ JONATHAN DAYTON ร่วมกับ VALERIE FARIS อดีตสองผู้กำกับมิวสิควีดีโอ ที่หันมาจับงานหนังใหญ่เป็นเรื่องแรก ทั้งคู่พาเราท่องไปบนถนนคนขี้แพ้ ด้วยเรื่องเล่าแบบ ROAD MOVIE ที่ขบขันและขมขื่น ....."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น